เมนูขนมหวานที่ชื่อคุ้นหู รูปร่างคุ้นตา เค้กกล้วยหอม เป็นอีกหนึ่งขนมหวานที่หลาย ๆ คนชื่นชอบ วันนี้เราจะพาทุก ๆ คนไปลองทำเค้กกล้วยหอมกันเองลองดูกับ แจก 4 สูตรเค้กกล้วยหอม ขนมเบเกอรี่ทำง่าย มือใหม่ก็ทำได้ มีหลายสูตรให้เลือกทำได้ตามความสะดวก อุปกรณ์ไม่เยอะ บางสูตรไม่มีเตาอบก็สามารถทำได้ ไปดูกันเลยว่าจะมีสูตรไหนให้ได้ลองทำตามกันบ้าง
1. เค้กกล้วยหอม หม้อหุงข้าว
ส่วนผสม
• กล้วยหอมสุก 200 กรัม • น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
• ไข่ไก่ 3 ฟอง • น้ำตาลทราย 180 กรัม
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา • แป้งเค้ก 200 กรัม
• ผงฟู 1+1/2 ช้อนชา • เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
• น้ำมันพืช 1 ถ้วย
ขั้นตอนการทำ
1. นำกล้วยหอมสุกงอมมาบี้ให้ละเอียดและเติมน้ำมะนาวลงไปเพื่อไม่ให้กล้วยเป็นสีดำ พักส่วนนี้ไว้
2. ตอกไข่ลงอ่างผสม เติมน้ำตาลทรายลงไป ตีส่วนผสมให้เข้ากันดี เติมกลิ่นวานิลลาลงไป ตีผสมให้เข้ากัน
3. ร่อนส่วนผสมของแห้งลงอ่างผสมไข่ ประกอบด้วยแป้งเค้ก ผงฟู และเบกกิ้งโซดา คนส่วนผสมของแห้งกับของเหลวให้เข้ากันดี เติมน้ำมันพืช คนส่วนผสมให้เข้ากันดีอีกครั้ง
4. นำส่วนผสมกล้วยที่พักไว้เทใส่ส่วนผสมไข่ คนส่วนผสมให้เข้ากันดี พักแป้งก่อนอบ 20 นาที
5. วางกระดาษรองอบที่ก้นพิมพ์เค้ก แล้วเอาแปรงจุ่มน้ำมันทาพิมพ์เค้กให้ทั่ว จากนั้นเทแป้งเค้ก และนำไปอบในหม้อที่วอร์มไว้ด้วยไฟอ่อนอย่างน้อย 5-7 นาที
6. ใช้ทิชชูอุดรูและอบเค้กประมาณ 35-40 นาที พอครบเวลาใช้ไม้เสียบลูกชิ้นจิ้มเค้กดู ถ้าไม่มีแป้งเหลวติดที่ปลายไม้แสดงว่าสุกแล้ว พักเค้กให้เย็นก่อนจะมาตัดเป็นชิ้นพอกิน เนื้อเค้กใช้ได้เลย และถ้าอบด้วยเตาแก๊สน่าจะมีการขึ้นฟูตรงกลางสวยกว่า
2. เค้กกล้วยหอมนึ่ง
ส่วนผสม
• กล้วยหอมสุก 200 กรัม • แป้งเค้ก 170 กรัม
• เกลือ 1/2 ช้อนชา • เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
• ผงฟู 1+1/2 ช้อนชา • ไข่ (เบอร์ 0) 2 ฟอง
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา • น้ำตาลทราย 80 กรัม
• น้ำมัน 80 กรัม • นมสด 40 กรัม
• โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 50 กรัม • ไข่ (เบอร์ 0) 2 ฟอง
ขั้นตอนการทำ
1. ยีกล้วยหอมสุกให้เละ ร่อนแป้งเค้ก ผงฟู เกลือ และเบกกิ้งโซดา 1 รอบ แล้วพักทิ้งไว้
2. ใส่ไข่ กลิ่นวานิลลา น้ำมัน นม โยเกิร์ต ลงในชามส่วนผสมกล้วย คนให้เข้ากัน
3. ร่อนน้ำตาลสำหรับทำขนมและส่วนผสมแห้งที่เตรียมไว้อีก 1 รอบ
4. เทส่วนผสมเปียกลงในชามที่ร่อนส่วนผสมแห้งเตรียมไว้ ผสมให้เข้ากันและพักแป้งเป็นเวลา 15 นาที ให้ผงฟูทำงาน
5. ตักหยอดใส่พิมพ์ ใช้ไฟปานกลางในการนึ่ง ใช้เวลาประมาณ 20 นาที เสร็จแล้ว แนะนำให้กินตอนร้อน ๆ จะอร่อยกว่า
3. เค้กกล้วยหอมช็อกโกแลต
ส่วนผสม
• แป้งบัวแดง 180 กรัม • เกลือ 1/2 ช้อนชา
• ผงฟู 1/2 ช้อนชา • เบกกิ้งโซดา 3/4 ช้อนชา
• ผงโกโก้ 30 กรัม • น้ำตาลทรายขาว 150 กรัม
• กล้วยหอมสุก 200 กรัม • น้ำมันพืช 150 กรัม
• ไข่ 2 ฟอง • นมสด 60 กรัม
• โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 80 กรัม • ช็อกโกแลตชิพ 40 กรัม
• ช็อกโกแลตชิพ สำหรับแต่งหน้า
ขั้นตอนการทำ
1. ผสมส่วนผสมของแห้งทั้งหมดให้เข้ากัน ได้แก่ แป้ง เกลือ ผงฟู เบกกิ้งโซดา ผงโกโก้ และน้ำตาลทราย
2. ผสมส่วนผสมของเปียกทั้งหมดให้เข้ากัน ได้แก่ กล้วยสุกบด น้ำมัน ไข่ นม และโยเกิร์ต ขั้นตอนนี้คนให้ทุกอย่างผสมกัน
3. เทส่วนผสมของเปียกลงในชามส่วนผสมของแห้ง คนผสมให้เข้ากัน *ข้อควรระวังคืออย่าคนมากเกินไป เอาให้เข้ากันแบบไม่เห็นแป้งขาว ๆ ก็พอ คนมากไปเค้กจะไม่อร่อย
4. พักทิ้งไว้ 30 นาที ให้ผงฟูทำงาน (ถ้าคนเสร็จแล้วเอาใส่เตาอบเลย เค้กจะไม่ฟู) จากนั้นเทช็อกโกแลตชิพลงไปแล้วคนให้เข้ากัน ตักใส่แม่พิมพ์ แต่งหน้าด้วยช็อกโกแลตชิพ
5. นำไปอบที่อุณหภูมิ 220 องศาเซลเซียส ประมาณ 10 นาที เพื่อให้เค้กหน้าแตก จากนั้นลดอุณหภูมิลงมาเหลือแค่ 180 องศาเซลเซียส อบต่ออีก 15 นาทีก็เสร็จแล้ว
6. ถ้าใช้กระดาษอบธรรมดา ตอนอบเสร็จจะต้องตั้งให้เย็นสนิทจริง ๆ หรือทางที่ดีทิ้งไว้ข้ามคืนเนื้อเค้กถึงจะไม่ติดกระดาษ เพราะถ้าอบเสร็จแล้วดึงกระดาษออกเลย ตัวเค้กจะติดกับกระดาษหมด ในสูตรใช้กระดาษไข อบเสร็จแล้วสามารถดึงออกได้เลยไม่มีปัญหาเรื่องเนื้อเค้กติด
4. เค้กกล้วยหอม สูตรไม่ใส่นม
ส่วนผสม
• กล้วยหอม 2 ลูก (ประมาณ 279 กรัม) • เนยจืด 70 กรัม
• ไข่ไก่ (เบอร์ 0) 2 ฟอง • กลิ่นเนยวานิลลา 1/2 ช้อนชา
• น้ำตาลทราย 80 กรัม • แป้งเค้ก (พัดโบก) 160 กรัม
• ผงฟู 1 ช้อนชา • เบกกิ้งโซดา 1/4 ช้อนชา
• กล้วยหอม 1 ลูก สำหรับโรยหน้า
ขั้นตอนการทำ
1. บดกล้วยหอมให้พอละเอียด ละลายเนยใส่ลงไปในกล้วยบด คนให้เข้ากัน
2. ตอกไข่ใส่ชามผสม คนให้ไข่แตก แล้วใส่ลงในส่วนผสมเนย คนให้เข้ากัน เติมกลิ่นเนยวานิลลาและน้ำตาลทราย คนให้เข้ากัน ร่อนแป้ง ผงฟู และเบกกิ้งโซดา ตะล่อมแป้งพอเข้ากัน
3. เทใส่พิมพ์ นำกล้วยหอมผ่าครึ่งวางทับลงไป นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง ประมาณ 40 นาที เป็นอันเสร็จ
นี่ก็เป็นการ แจก 4 สูตรเค้กกล้วยหอม ขนมเบเกอรี่ทำง่าย มือใหม่ก็ทำได้ ที่ทุกคนสามารถทำตามกันได้ง่าย ๆ ยิ่งสูตรที่ใช้หม้อหุงข้าวแล้วทำง่ายมาก ๆ ไม่ต้องง้อเตาอบก็สามารถทำกันได้แล้ว