ไม่มีใครไม่ชอบขนมหวานกันอย่างแน่นอน ทุกวันนี้หลาย ๆ คนหันมาลองทำขนมกินเองกันอย่างมากมาย ซึ่งมีหลาย ๆ ขนมที่ทำเองได้ง่ายมาก ๆ วันนี้เราจึงจะมาแชร์ 4 สูตรขนม เอาใจสายหวาน ทำเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน ทุกคนสามารถสนุกไปกับการทำขนมกันได้ แถมยังสามารถพัฒนาสูตรให้เป็นของตัวเองเพื่อทำเป็นอาชีพได้อีกด้วย ไปดูกันเลยว่ามีขนมสูตรไหนน่าสนใจบ้าง
1. คุกกี้บราวนี่
ส่วนผสม
- • ไข่ เบอร์ 2 : 1 ฟอง
- • น้ำตาลทราย 65 กรัม
- • กลิ่นวานิลา 1 ช้อนชา
- • เนยสดจืด 10 กรัม
- • ดาร์กช็อกโกแลตแท้ (70%) 100 กรัม
- • แป้งอเนกประสงค์ตราว่าว 20 กรัม
- • ผงฟู 1/8 ช้อนชา
- • เกลือ 1/8 ช้อนชา
- • ช็อคโกแลตชิพ 50 กรัม
วิธีทำ คุกกี้บราวนี่
1. นำเนยสด และช็อกโกแลตมาเข้าไมโครเวฟ 1 นาที แล้วนำออกมาคนให้เข้ากัน จำได้เป็นช็อคโกแลตเหลว ๆ นำไปพักไว้ให้เย็น
2. เตรียมชามผสม นำไข่ไก่มาตีรวมกับน้ำตาลทราย แล้วใช้เครื่องตีจนน้ำตาลทรายละลาย และได้ไข่สีอ่อนลง
3. เทช็อกโกแลตลงไป ตีจนเข้ากันและเหนียวขึ้น
4. ร่อนแป้ง ผงฟู และเกลือ เข้าด้วยกัน
5. นำแป้งมาเทลงในชามผสม พร้อมช็อกโกแลตชิพ แล้วใช่ไม้พายตะล่อมให้เข้ากัน
6. ตักคุกกี้ลงบนถาดที่รองกระดาษรองอบ ให้ได้ขนาดตามต้องการ (เว้นระยะระหว่างชิ้น)
7. นำคุกกี้เข้าเตาอบ ไฟบนล่าง อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส นาน 15 นาที
8. เมื่อครบเวลา นำคุกกี้ออกมาพักให้เย็น พร้อมทาน
2. ทาร์ตไข่
ส่วนผสม
- • นมสดจืด 300 กรัม
- • น้ำตาลทราย 150 กรัม (ปรับเพิ่มลดได้ 140-160 กรัม)
- • วิปปิ้งครีมแท้ หรือที่เรียกว่าแดรี่ครีม 700 กรัม
- • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
- • ไข่แดง 7 ฟอง (ถ้าใช้เบอร์ 0 ใช้ 6 ฟอง / ถ้าเบอร์ 2 ใช้ 7 ฟอง )
- • เกลือ 1/4 ช้อนชา
วิธีทำ ทาร์ตไข่
1. ก่อนทำให้เปิดวอร์ทเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ 180 องศา ไฟบนล่าง และเปิดพัดลมด้วย
2. นำถ้วยทาร์ตสำเร็จรูป ออกจากตู้เย็น แล้วนำมาวางเรียงในถาดที่จะใช้อบ เพื่อคลายความเย็น
3. เทน้ำตาและเกลือ ลงในนมสด แล้วใช้ตะกร้อคนจนน้ำตาลละลายหมด
4. พอน้ำตาลละลายหมดแล้ว ค่อยใส่วิปปิ้งครีม และกลิ่นวนิลลาลงไปผสม
5. ใส่ไข่แดงลงไป ** ค่อย ๆ คนอย่างเบามือที่สุด คนน้อย ๆ ไม่ต้องคนเยอะ
6. เอาส่วนผสมมากรอง 1 รอบ แล้วใช้ตะกร้อคนเบ าๆ อีกครั้ง
7. ใช้ที่หยอดแป้งหยอดขนมลงในแป้งทาร์ต ให้ขนมอยู่พอดีกับขอบแป้งทาร์ต (หรือใช้ภาชนะที่มีปากสำหรับเทก็ได้)
8. นำเข้าอบ 30 นาทีโดยประมาณ สังเกตที่สีของหน้าขนมเอาค่ะ ชอบเข้มมาก เข้มน้อย เลือกเอาได้เลย
3. คุกกี้บราวนี่
ส่วนผสม
- • ไข่ เบอร์ 2 : 1 ฟอง
- • น้ำตาลทราย 65 กรัม
- • กลิ่นวานิลา 1 ช้อนชา
- • เนยสดจืด 10 กรัม
- • ดาร์กช็อกโกแลตแท้ (70%) 100 กรัม
- • แป้งอเนกประสงค์ตราว่าว 20 กรัม
- • ผงฟู 1/8 ช้อนชา
- • เกลือ 1/8 ช้อนชา
- • ช็อคโกแลตชิพ 50 กรัม
วิธีทำ คุกกี้บราวนี่
1. นำเนยสด และช็อกโกแลตมาเข้าไมโครเวฟ 1 นาที แล้วนำออกมาคนให้เข้ากัน จำได้เป็นช็อคโกแลตเหลว ๆ นำไปพักไว้ให้เย็น
2. เตรียมชามผสม นำไข่ไก่มาตีรวมกับน้ำตาลทราย แล้วใช้เครื่องตีจนน้ำตาลทรายละลาย และได้ไข่สีอ่อนลง
3. เทช็อกโกแลตลงไป ตีจนเข้ากันและเหนียวขึ้น
4. ร่อนแป้ง ผงฟู และเกลือ เข้าด้วยกัน
5. นำแป้งมาเทลงในชามผสม พร้อมช็อกโกแลตชิพ แล้วใช่ไม้พายตะล่อมให้เข้ากัน
6. ตักคุกกี้ลงบนถาดที่รองกระดาษรองอบ ให้ได้ขนาดตามต้องการ (เว้นระยะระหว่างชิ้น)
7. นำคุกกี้เข้าเตาอบ ไฟบนล่าง อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส นาน 15 นาที
8. เมื่อครบเวลา นำคุกกี้ออกมาพักให้เย็น พร้อมทาน
4. ชีสเค้กหน้าไหม้ Basque Cheesecake
ส่วนผสม
- • ครีมชีส 500 กรัม
- • น้ำตาลทรายแบบละลายง่าย 140 กรัม (เพิ่ม-ลดความหวานได้)
- • แป้งข้าวโพด 15 กรัม
- • วิปปิ้งครีม ชนิดครีมแท้ (Dairy Whipping Wream) 250 กรัม
- • ไข่ไก่ เบอร์ 1 = 3 ฟอง หรือ เบอร์ 0 = 2 ฟอง
- • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
วิธีทำ ชีสเค้กหน้าไหม้
1. นำครีมชีสออกมาจากตู้เย็นให้อยู่ในอุณหภูมิห้อง
2. เตรียมบุกระดาษไข ที่พิมพ์เค้ก (ใช้พิมพ์ขนาด 2 ปอนด์ หรือ 3 ปอนด์ก็ได้ แล้วแต่ความหนาของเค้กที่ชอบ) ถ้ากระดาษบางให้รอง 2 ชั้น
3. ตีครีมชีส กับน้ำตาลทราย และแป้งข้างโพด ตีด้วยความเร็วปานกลาง (ใครไม่มีเครื่องตีสามารถใช้ตะกร้อมือตีแทนได้)
4. เมื่อส่วนผสมเข้ากันดี และครีมชีสเริ่มเนียน ให้ใส่วิปปิ้งครีมและกลิ่นวนิลลา แล้วตีต่อให้เข้ากัน
5. ระหว่างที่ตีส่วนผสม ให้ค่อยๆ ใส่ไข่ไก่ลงไปทีละฟอง
6. ลดความเร็วเครื่องตีแล้วค่อยๆ คนให้ส่วนผสมเนียนและเข้ากันดี
7. นำส่วนผสมเทลงในพิมพ์ แล้วเคาะพิมพ์ 1-2 ครั้งเพื่อไล่ฟองอากาศ
8. นำเค้กเข้าเตาอบ ไฟบนล่าง ตั้งความร้อนที่อุณหภูมิ 220 องศา ใช้เวลา 20 นาที และ 200 องศา อีก 15 นาที
9. เมื่อได้ความเข้มของหน้าชีสเค้กที่ต้องการแล้ว ให้นำเค้กออกจากเตาอบ แล้วพักให้หายร้อน จากนั้นนำพลาสติกแรปคลุมให้มิด จากนั้นนำเค้กเข้าตู้เย็น อย่างน้อย 2 ชั่วโมง (อย่าเพิ่งนำออกจากพิมพ์)
คำแนะนำเพิ่มเติม
- เวลาในการอบอาจจะมากหรือน้อย แล้วแต่เตาอบที่ใช้ ถ้าชอบให้หน้าชีสเค้กสีเข้มมากสามารถอบต่อได้
- ชีสเค้กที่อบเสร็จใหม่ๆ เนื้อเค้กจะมีลักษณะฟูและเหลว (เด้งดึ๋ง) ไม่ต้องตกใจ รอให้เย็นชีสเค้กจะค่อย ๆ ยุบตัวลง
- หลังจากแช่ตู้เย็นแล้ว สีของเค้กจะเข้มขึ้นเล็กน้อย
และนี่ก็เป็น 4 สูตรขนม เอาใจสายหวาน ทำเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน แต่ละเมนูก็ได้ถือว่าไม่ยากไม่ง่ายสำหรับคนที่พึ่งลองทำ แต่ก็ไม่ยากเกินไปหากอยากลองทำ หวังว่าทุกคนจะลองทำสำเร็จและได้ขนมที่อร่อยกันนะคะ