ประเทศที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานเก่าแก่ มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมายที่รอให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางไปเยือน ออสเตรีย ซึ่งที่นี่ก็มีบรรยากาศที่โรแมนติกอยู่ทั่วเมือง ใครที่ได้เดินทางไปจะต้องอยกกลับไปกันอีกอย่างแน่นอน วันนี้ prafang.com เลยจะพาไป เที่ยว 4 เมืองออสเตรีย วิวทิวทัศน์สวย บ้านเมืองน่าอยู่ แต่ละที่นั้นมีทั้งภูเขา ทะเลสาบ พร้อมบ้านเมืองที่น่ารัก แสนอบอุ่นชวนให้หลงรักมากมาย ไปดูกันดีกว่าว่ามีที่ไหนทีควรไปบ้าง
1. กรุงเวียนนา (Vienna)
กรุงเวียนนา ดินแดนแห่งเสียงเพลงสุดโรแมนติก เป็นเมืองหลวงที่ใหญ่ที่สุดของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม มรดกทางวัฒนธรรม ความวิจิตของศิลปะ และดนตรีคลาสสิคอันไพเราะ ซึ่งเป็นแหล่งกำนิดของนักแต่งพลงคลาสลิคชื่อดังหลายท่าน ซึ่งออสเตรียมีบ้านเมืองสะอาดน่าอยู่ ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ผู้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดในโลกอีกด้วย ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของยุโรป และเป็นที่ฮันนีมูนในฝันของคู่รักจากทั่วโลก เพราะทั้งโรแมนติกและมีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ มากมาย
โดย UNESCO ยกให้เป็นมรดกโลก 2 แห่งคือ เขตเมืองเก่าใจกลางกรุงเวียนนา และพระราชวังเชินบรุนน์ (Schoenbrunn Palace) พระราชวังฤดูร้อนอันยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค ที่ทั้งหรูหรา ใหญ่โต อลังการ เป็นศูนย์รวมของผลงานด้านศิลปะชั้นเยี่ยม จัดเป็นอนุสาวรีย์ทางวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดในประเทศเลยก็ว่าได้ ด้านหลังเป็นอุทยานกว้างขวาง และยังมีสวนสัตว์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอีกด้วย
2. ฮัลส์สตัทท์ (Hallstatt)
ฮัสส์สตัทท์ เมืองเล็ก ๆ ริมทะเลสาบ Hallstatt See ที่ทุกคนจะต้องตกหลุมรักตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามา เมื่อมาที่นี่จะได้สัมผัสอากาศอันแสนบริสุทธิ์ เงียบสงบ และตัวเมืองที่น่ารัก ซึ่งที่นี่มีผู้คนอาศัยอยู่ไม่ถึงพันคน ฉากหลังเป็นภูเขาสูงชันโอบล้อมเมือง ทะเลสาบสีฟ้า แถมด้วยบรรดหงส์ที่พากันมาว่ายน้ำ บ้านเรือนน่ารัก ๆ ลดหลั่นเป็นชั้น ๆ ลงมาตามแนวเขา รอบเมืองเต็มไปด้วยร้านอาหารขนาดเล็ก และดอกไม้สีส้นสดใส ทำให้ผู้คนที่มาเยือนไม่แปลกใจที่เมืองนี้ได้ชื่อว่า เมืองริมทะเลสาบที่เก่าแก่และสวยที่สุดในโลก
แถมยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกจาก UNESCO ที่นี่ที่มีการผสมผสานกันอย่างกลมกลืนระหว่างภูมิประเทศที่สวยงามกับวัฒนธรรมที่เก่าแก่ของโลกอีกด้วย จึงเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับต้น ๆ ของออสเตรีย เหมาะแก่การมาพักผ่อนตากอากาศ เดินเล่นชมธรรมชาติและทัศนียภาพสวย ๆ ของตัวเมือง กลางวันก็สวยงาม บรรยากาศกลางคืนก็แสนโรแมนติก สามารถเดินทางมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะแต่ละฤดูกาลก็มีความสวยงามต่างกันไป
อย่างช่วงช่วงใบไม้เปลี่ยนสีก็จะไล่เฉดตั้งแต่เขี้ยว เหลือง ส้ม แดง ไปทั่วทั้งภูเขาและหมู่บ้าน ถ้าเป็นช่วงฤดูหนาวจะมีหิมะขาวโพลนปกคลุมไปทั่วภูเขา โรแมนติกไปอีกแบบ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมมากมายไม่ว่าจะเป็นการปีนเขา ล่องเรือในทะเลสาบ เล่นสกี เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ หรือเดินทางไปชมเหมืองเกลือโบราณที่มีอายุกว่า 7,000 ปี โดยการขึ้นกระเช้าไฟฟ้าไปขนภูเขาที่มีความสูงประมาณ 838 เมตร สามารถเที่ยวชมได้ในช่วงระหว่างเดือนเมษายน – เดือนตุลาคมของทุก ๆ ปี
3. ซัลทซ์คัมเมอร์กูท (Salzkammergut)
ซัลทซ์คัมเมอร์กูท ดินแดนแห่งทะเลสาบและสรรค์ของคนรักธรรมชาติ เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามมากของออสเตรีย ทั้งในเรื่องของธรรมชาติและหมู่บ้านที่สวยงามราวกับเทพนิยาย จนได้ชื่อว่าเป็นภูมิภาคที่สวยที่สุดในออสเตรีย ที่นี่โอบล้อมด้วยเทือกเขาแอลป์และภูเขามากมาย มีทะเลสาบถึง 76 แห่ง เช่น Wolfgangsee, Lake Attersee, Lake District และ Lake Hallstatt แถมยังเคยเป็นแหล่งทำเหมืองแร่ชื่อดัง และแหล่งผลิตกลือที่ใหญ่ที่สุดในแถบเทือกเขาแอลป์อีกด้วย บอกได้เลยว่าเหมาะแก่การเดินทางมาพักผ่อน อยู่ท่ามกลางวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม หนีความวุ่นวายในเมืองได้เป็นอย่างดีมาก ๆ
สถานที่ยอดฮิตที่ห้ามพลาดเมื่อมาที่นี่ คือ ซังคท์ โวล์ฟกัง (St. Wolfgang) เมืองมาร์เก็ตทาวน์และเมืองสอร์เพื่อสุขภาพที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของออสเตรียค่า ห้อมล้อมด้วย ทะเลสาบโวล์ฟกัง (Wolfgangsee) หนึ่งในทะเลสาบที่มีชื่อเสียงของประเทศออสเตรีย โดยชื่อเมืองมาจากชื่อของนักบุญโวลฟ์กัง
ซึ่งได้สร้างโบสถ์เล็ก ๆ ขึ้นมา ที่เรียกกันว่า โบสถ์นักบุญโวลฟ์กัง ปัจจุบันได้เป็นโบสถ์ประจำของเมือง และเป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นมากที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป อีกสถานที่หนึ่งคือ ฮัลล์ชทท์ (Hallstatt) เมืองมรดกโลกที่เก่าแก่และสวยที่สุดในโลก อยู่ริมทะเลสาบ Lake Hallstatt บ้านเรือนน่ารัก บรรยากาศดี ทัศนียภาพสวยงาม ทำให้รู้สึกโรแมนติกสุด ๆ แถมยังมีร้านค้า ร้านอาหารและกิจกรรมให้ทำมากมาย ทำให้สามารถเดินทางมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
4. เซลล์ อัม ซี (Zell am See)
เซลล์ อัม ซี เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่สวยงามอย่างกับหลุดอกมาจากโปสการ์ อากาศดี วิวสวย โรแมนติก ราวกับสวรรค์บนดิน รอบ ๆ เมืองโอบล้อมไปด้วยเทือกเขา ทุ่งหญ้าสีเขียว ทุ่งดอกไม้ละลานตา เป็นหมู่บ้านที่น่ารักสุด ๆ ร้านอาหารก็บรรยากาศดี และมีทะเลสาบสีฟ้าครามสวยสดใสมาก ๆ ผู้คนมักจะมาเล่นน้ำ ว่ายน้ำ ดำน้ำ เล่นวินเซิร์ฟ เวคบอร์ดและสกีน้ำ
หลายคนจะเดินทางไปในช่วงฤดูหนาวเพื่อสัมผัสประสบการณ์การเล่นสกีน้ำแข็ง ซึ่งมีระยะทางยาวกว่า 138 กิโลเมตร ยาวไปตามเนินเขาระหว่างภูเขาถึง 3 ลูก ได้แก่ ชมิทเทนโฮเฮอ (Schmittenhohe) คิทส์ชไตน์ฮอร์น (Kitzsteinhorn) และมายสโคเกล (Maiskogel) ซึ่งสกีเป็นกิจกรรมยอดฮิตและมีชื่อเสียงของที่นี่ และในช่วงเดือนธันวาคม จะมีงานเทศกาลฤดูหนาวเกิดขึ้นในเมืองอีกด้วย
อีกกิจกรรมที่น่าสนใจก็คือนั่งเคเบิลคาร์เพื่อชมวิวบนยอดเขาชมิทเทนโฮเฮอ (Schmitten hohe) ที่สูงถึง 6,453 ฟุต ถือเป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุด มองลงมาเห็นความสวยของเมืองได้แบบเต็ม ๆ สามารถเห็นภูเขาได้ไกลหลายลูกเลย
เป็นอย่างไรบ้างกับการ เที่ยว 4 เมืองออสเตรีย วิวทิวทัศน์สวย บ้านเมืองน่าอยู่ แต่ละที่นั้นให้ความรู้สึกอบอุ่น โรแมนติกสุด ๆ ไปเลยใช่ไหมละ บอกได้ว่าใครที่ได้ไปจะต้องอยากอยู่ยาว ๆ ไปอยากกลับบ้านกันแน่นอน ใครที่ชอบเที่ยวแบบธรรมชาติจะต้องหลงรักกันสุด ๆ ไปเลย