“พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” รอดแล้ว! ไอทีวี ไม่ใช่สื่อแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินแล้ว อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดใจกับสื่อมวลชนว่า “มั่นใจในความบริสุทธิ์” ก่อนฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญใน “คดีถือหุ้นไอทีวี” เวลา 14.00 น. วันนี้เวลา
เมื่อวันนี้เวลา 12.45 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค ก.ก. เดินทางถึงศาลรัฐธรรมนูญ ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ เพื่อเตรียมฟังคำวินิจฉัย “คดีถือหุ้นไอทีวี” ในเวลา 14.00 น. จากกรณีนายพิธา ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 42,000 หุ้น ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ อยู่ในวันสมัครรับเลือกตั้ง สส.บัญชีรายชื่อ
คดีนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นผู้ยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพ สส. ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบกับมาตรา 98 (3) หรือไม่ จากกรณีถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 42,000 หุ้น ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ อยู่ในวันสมัครรับเลือกตั้ง สส.บัญชีรายชื่อ เมื่อ 4 เม.ย. 2566
ข้อพิพาทไอทีวี-สปน. หากไอทีวีชนะคดีก็ไม่ได้หมายความว่าจะประกอบกิจการสื่อได้อีก ตั้งแต่ 7 มี.ค.2550 และการที่คงสถานะนิติบุคคลก็เพื่อการดำเนินคดีที่ค้างอยู่ในศาล อีกทั้งไม่มีรายได้จากกิจการที่เกี่ยวข้องกับสื่อมวลชน แต่มีรายได้จากดอกเบี้ยรับ
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 8 ต่อ 1 ว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นผู้ถือหุ้นไอทีวีในวันสมัครรับเลือกตั้ง แต่ไม่พ้นสมาชิกภาพ สส. เนื่องจากบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ไม่ได้ประกอบกิจการหรือมีรายได้จากกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ
ก่อนส่งท้ายนายพิธาให้สัมภาษณ์ว่า “มั่นใจในความบริสุทธิ์” และ “ไม่มี” ความกังวลใจ