วันนี้เราจะพาทุกๆ คนมาชม 4 สถานที่สุดแปลกที่คุณอาจไม่คิดว่ามีอยู่จริง เชื่อว่าหลายคงจะชอบไปเที่ยวในสถานที่สวยๆ มีจุดชมวิวที่ดีเอาไว้ถ่ายรูป อัพลงเฟสบุ๊ค เมื่อมีที่สวยๆ แล้วก็ต้องมีที่แปลกๆ บ้างแหละ อยากให้ทุกคนลองมาเปิดใจเที่ยวสถานที่เหล่านี้ดูบ้าง เพื่อให้ชีวิตได้เจอความแปลกใหม่ ความแปลกที่พูดถึงไม่ใช่ความแปลกที่สื่อไม่ทางที่ไม่ดีนะคะ แต่เป็นความสวยงามแบบแปลกใหม่ที่หลายๆ คนยังไม่รู้จักหรืออาจจะมองข้ามไป ถ้าพร้อมลองไปดูกันค่ะว่าแต่ละที่นั้นมีความสวยงามที่แปลกใหม่อย่างไร
1. ถ้ำเซินด่อง(Son Doong Cave) – ประเทศเวียดนาม
มาเริ่มต้นกันเลยที่แรก นั้นก็คือ ถ้ำเซินด่อง ที่เป็นสถานที่สุดแปลกในโลกที่ไม่ไกลจากประเทศไทยสักเท่าไหร่บินไปแปปเดียว เป็นถ้ำมหัศจรรย์ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นถ้ำในดินแดนจากใต้พิภพที่เพิ่งได้มีการเปิดตัวไปช่วงปี ค.ศ. 2009 จากการสำรวจแล้วพบว่าถ้ำ ณ ที่แห่งนี้มีอายุมากกว่า 2-3 ปี และได้จัดอันดับว่าเป็นถ้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ จะขนาดใหญ่เท่าไหร่กันนะ ก็อาจจะไม่มากเท่าไหร่แค่สร้างตึก 50 ชั้นและเปิดหมู่บ้านใหม่ได้สัก 10 หมู่บ้าน เท่านั้นเอง และนอกจากนั้นแล้ว ภายใต้ของถ้ำยังมีความสวยงามและยังเป็นที่อาศัยเล็กๆ ให้กับสัตว์บางชนิดที่หายากแถมยังมีพวกพืชโบราณหลากหลายพันธุ์ด้วยนะคะ เขาว่ากันว่าในถ้ำถ้าได้เข้าเหมือนหลุดในยุคไดโนเสาร์ดึกดำบรรพ์เลยทีเดียว
2. หาดสีแดง(Red Beach) – ประเทศจีน
และสถานที่ท่องเที่ยวสุดแปลกที่สุดในโลกก็ยังคงตกเป็นของฝั่งทางเอเชียที่ นั้นก็คือ หาดสีแดง ว่ากันว่าแท้จริงแล้วหาดแห่งนี้ไม่ใช่ชายหาดติดทะเล แต่เป็นทุ่งหญ้าสาหร่ายสีแดงสดที่ได้มีการปกคลุมพื้นที่กว้างกว่า 52 ตารางไมล์ในแถบเขตลุ่มน้ำจากเมืองปานจิน จัดว่าเป็นพื้นที่บริเวรที่มีน้ำชุ่มที่สุดในโลก อีกทั้งยังเป็นที่อยู่ของเหล่าบรรดานกหลายสายพันธุ์และมีสิ่งมีชีวิตต่างๆ รวมกันหลายร้อยกว่าประเภท โดยเฉพาะนกกระเรียนประเภทต่างๆ ที่มีอยู่เยอะแยะจนคนแถวนั้นคิดว่าเป็นบ้านของนกกระเรียนไปแล้วไป ทั้งนี้เพื่อเหตุผลในการรักษาสมดุลทางระบบนิเวศวิทยานี้ นักท่องสามารถไปเข้าไปชมความงามของหาดสีแดงนี้กันได้แค่เพียงบางพื้นที่เท่านั้น
3. หุบเขาช็อกโกแลตแห่งโบโฮล(Chocolate Hills of Bohol Island)-ประเทศฟิลิปปินส์
ในสถานที่สุดแปลกที่สุดในโลกแห่งนี้มีจำนวนภูเขาที่ได้มีภูเขาเกิดขึ้นเอง 1,800 กว่าลูก แต่กลับมีรูปร่างเป็นทรงมนๆ หลอมและมีการไล่สัดส่วนกัน จนผู้ที่พบเห็นคิดว่าเป็นสถานที่ที่มนุษย์สร้างขึ้นมา เกิดขึ้นเหมือนกับภาพวาดภูเขาที่เด็กๆ ได้วาดขึ้น และเกิดไล่เรียงกันเป็นแนว ตามการบอกเล่าในนิทานท้องถิ่น (ซึ่งจะมีอยู่หลายตำนาน) เล่ากันไว้ว่าภูเขาเหล่านี้เกิดจากการเล่นปั้นดินและนำมาปาใส่กันของยักษ์เด็ก 2 ตน หลังจากยักษ์น้อยเลิกทะเลาะและเลิกเล่นกันแล้วก็ลืมเกลี่ยดินที่ปาใส่กันให้ราบเรียบ เลยเป็นที่มาของกลุ่มภูเขากว่าพันแห่งที่นี่ โดยลักษณะทั่วไปนั้นภูเขาเหล่านี้เป็นภูเขาทุ่งหญ้า ซึ่งในช่วงหน้าแล้ง หญ้าเหล่านี้จะกลายเป็นสีน้ำตาลจนเป็นที่มาของชื่อช็อกโกแลตฮิลล์ นอกจากจะเป็นสถานที่เที่ยวแปลกๆ ยอดฮิตของเกาะโบโฮลแล้ว ก็ยังเป็นเขตมรดกโลกด้านธรณีวิทยาอีกด้วย
4. ทะเลสาบฮิลเลอร์(Lake Hiller)-ประเทศออสเตรเลีย
และก็มาถึงสถานที่สุดท้ายนะคะ เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ทั้งแปลกและสวมงามในเวลาเดียวกันมากค่ะ นั้นก็คือ ทะเลสาบฮิลเลอร์ ตั้งอยู่ที่เขตแถบซีกโลกใต้ เป็นทะเลาสาบสีชมพูอยู่บนเกาะปะการังที่มีขนาดจิ๋วกลางทะเล ทะเลสาปแห่งถูกค้นพบเมื่อช่วงปี ค.ศ 1802 สถานที่โดดเด่นของทะเลสาบฮิลเลอร์ก็คือ สีน้ำในทะเลาสาบเป็นสีชมพูตลอดปีไม่ว่าจะช่วงเวลาใดก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ได้มีการสันนิษฐานไว้ว่าเกิดจากสิ่งมีชีวิตเล็กๆที่เรียกว่าแบคทีเรียอาศัยอยู่ในก้อนเกลือที่รวมตัวกัน
จากที่ได้ชม เปิด 4 สถานที่สุดแปลก ที่คุณอาจไม่คิดว่ามีอยู่จริง
เห็นแล้วอยากไปลองไปสักครั้งในชีวิตจริงๆ เลยค่ะ แต่ละที่คือสวยงามแปลกใหม่แ บบที่ไม่เคยเห็นอาจที่ไหน เป็นสถานที่ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติอีกด้วย ไม่ได้มีการสร้างขึ้นจากมนุษย์เลย ดังนั้น เลยอยากจะให้ทุกๆ ลองไปเปิดประสบการ์ณ์เที่ยวในที่ใหม่ๆ ดูค่ะ ในโลกเรานี้ล้วนแต่มีสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่เรายังไม่รู้จักอีกมากมาย หมดโควิดนี้แล้วลองไปหาสถานที่ท่องเที่ยวไว้เที่ยวกัน